วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2561

การจำแนกรูปร่างของภูเขาไฟ

ภูเขาไฟ (Volcano) คือ ภูเขาที่เกิดขึ้นโดยการปะทุของหินหนืดร้อน แรงดันสูงภายใต้เปลือกโลก แล้ว ปรากฏตัวเป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งทางภูมิศาสตร์ภูเขาไฟมีหลายชนิดแบ่งไปตามสภาพของความรุนแรงในการปะทุ (ราชบัณฑิตยสถาน, 2516) ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการเกิดภูเขาไฟ ได้แก่ ทฤษฎีพลูม (Plume Theory) โดยเจสัน มอร์แกน (Jason Morgan) กล่าวว่าการเกิดภูเขาไฟระเบิดเกิดจาก จุดศูนย์รวมความร้อน (Hot Spot) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พลูม" (Plume) เกิดการถ่ายเทพลังงานของมวลที่แข็งและร้อนในชั้นของเปลือกโลกแมนเทิล (Mantle) ซึ่งเป็นชั้นหินหลอมเหลวใต้เปลือกโลก ลักษณะปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดภูเขาไฟ และภูเขาไฟระเบิด ตัวอย่างที่สนับสนุนทฤษฎีนี้ ได้แก่ การเกิดภูเขาไฟในหมู่เกาะฮาวาย ที่เกิดจากภูเขาไฟที่เกิดจากการแทรกตัวของมวลหินร้อนที่โผล่พ้นระดับน้ำทะเล กลายเป็นหมู่เกาะฮาวาย โดยผลของจุดศูนย์รวมความร้อนจะทำให้เปลือกโลกโค้งงอ ลาวาที่มีส่วนประกอบของหินบะซอลต์ จะไหลถ่ายเทโผล่พ้นผิวน้ำ ทำให้เกิดเป็นหมู่เกาะขึ้น หมู่เกาะฮาวาย ประกอบไปด้วยภูเขาไฟ 5 ลูก และจัดเป็นภูเขาไฟที่ยังมีพลังอยู่นอกจากนั้นการเคลื่อนที่เข้าหากันของแผ่นทวีปทำให้เกิดแนวมุดตัวของแผ่นทวีป (Subduction Zone) หนึ่งเข้าไปอยู่ใต้แผ่นทวีปหนึ่ง ก็ทำให้เกิดปรากฏการณ์ภูเขาไฟได้เช่นกัน ปรากฏการณ์ภูเขาไฟ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากหินหนืดที่ไหลขึ้นมาแข็งตัวอยู่ภายในหรือภายนอกเปลือกโลก เป็น ลักษณะเดียวกับการเกิดหินอัคนี
การจำแนกภูเขาไฟตามรูปร่าง

ปกติจะมีการจำแนกภูเขาไฟตามรูปร่าง ตามส่วนประกอบที่ทำให้เกิด และชนิดของการประทุ โดยสรุปแล้วเราจะจำแนกภูเขาไฟได้ 4 ลักษณะคือ
1. ภูเขาไฟแบบกรวยสูง (Steep cone) เกิดจากลาวาที่มีความเป็นกรด หรือ Acid lava cone รูปกรวยคว่ำของภูเขาไฟเกิดจากการทับถมของลาวาที่เป็นกรด เพราะประกอบด้วยธาตุซิลิกอนมากกว่าธาตุอื่นๆ ลาวามีความเข้มข้นและเหนียว จึงไหลและเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ แต่จะแข็งตัวเร็ว ทำให้ไหล่เขาชันมาก ภูเขาไฟแบบนี้จะเกิดจากการระเบิดอย่างรุนแรง [1]
2. กรวยภูเขาไฟสลับชั้น (Composite Cone Volcano) เป็นภูเขาไฟซึ่งเกิดจากการสลับหมุนเวียนของชั้นลาวา และเศษหิน ภูเขาไฟชนิดนี้อาจจะดันลาวาไหลออกมาเป็นเวลานาน และจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการประทุอย่างกะทันหัน ภูเขาไฟชนิดนี้ที่มีชื่อ เช่น ภูเขาไฟฟูจิ (ญี่ปุ่น), ภูเขาไฟมายอน (ฟิลิปปินส์) และ ภูเขาไฟเซนต์เฮเลน (สหรัฐอเมริกา)
3. ภูเขาไฟรูปโล่ (Shield Volcano) เป็นภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่ โดยพื้นฐานแล้วภูเขาไฟชนิดนี้เกิดจาก ลาวาชนิดบาซอลท์ที่ไหลด้วยความหนืดต่ำ ลาวาที่ไหลมาจากปล่องกลาง และไม่กองสูงชัน เหมือนภูเขาไฟชนิดกรวยสลับชั้น ภูเขาไฟชนิดนี้มักจะเป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ เช่น ภูเขาไฟ Mauna Loa (ฮาวาย)

4. กรวยกรวดภูเขาไฟ (Cinder Cone) ภูเขาไฟชนิดนี้จะสูงชันมาก และเกิดจากลาวาที่พุ่งออกมาทับถมกัน ลาวาจะมีความหนืดสูง การไหลไม่ต่อเนื่อง และมีลักษณะเป็นลาวาลูกกลมๆ ที่พุ่งออกมาจากปล่องเดี่ยว และทับถมกันบริเวณรอบปล่อง ทำให้ภูเขาไฟชนิดนี้ไม่ค่อยก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิตมากมาย
อ้างอิง
https://www.google.com/search?q=%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%9F&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwiQsYSVybLdAhUDTI8KHUHICAoQ_AUICigB&biw=1366&bih=613#imgrc=MCg1njpAzlfwoM:

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%9F#%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น